ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนจากจีนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 40 คน ได้ร่วมประชุมกันที่กรุงเทพฯ เพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เพื่อสร้างตลาดระดับภูมิภาคที่มีคุณภาพสูง
การประชุมสัมมนาในวันอังคารนี้ จัดโดย Boao Forum for Asia (BFA), China Institute for Reform and Development (CIRD) ที่ตั้งอยู่ในไห่หนาน ร่วมกับ Hainan Institute for Free Trade Port Studies ภายใต้หัวข้อ “RCEP: New Future for Asia’s Economy” (RCEP: อนาคตใหม่สำหรับเศรษฐกิจเอเชีย)
นายจาง จุน เลขาธิการ BFA กล่าวเปิดการประชุม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ RCEP ต่อการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศในเอเชีย นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีสภาพแวดล้อมทางนโยบายที่เอื้ออำนวย การสนับสนุนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น และการสร้างกลไกที่ดีขึ้น เพื่อผลักดัน RCEP ไปสู่ข้อตกลงการค้าเสรีในระดับที่สูงขึ้น
นายฉี ฟู่หลิน หัวหน้า CIRD เน้นย้ำถึงบทบาทที่กำลังเกิดขึ้นของ RCEP ในการส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคและเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและความสามารถในการต้านทานความเสี่ยงของภูมิภาค โดยเสริมว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการดำเนินการ ซึ่งต้องอาศัยความพยายามร่วมกันจากทุกฝ่าย
นายแก้วมะละกอด สิดละโคน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของลาว กล่าวว่า RCEP นำมาซึ่งผลประโยชน์มากมายแก่ประเทศของเขา สร้างโอกาสใหม่และปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการยังคงเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความไม่สอดคล้องกันในการพัฒนาเศรษฐกิจและมาตรฐานการกำกับดูแลระหว่างสมาชิก
นายโยเซ ริซาล ดามูรี ผู้อำนวยการบริหารศูนย์การศึกษาเชิงยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศของอินโดนีเซีย เรียกร้องให้สมาชิก RCEP สร้างความไว้วางใจและความร่วมมือผ่านความพยายามทางการทูต เร่งการสร้างกลไกที่เกี่ยวข้อง และกำหนดภารกิจและเป้าหมายเฉพาะ
นางสาวจิตติมา นากามาโน ผู้อำนวยการสำนักงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ของไทย กล่าวว่า ไทยมีความคืบหน้าที่ดีในการดำเนินการตาม RCEP ในขณะเดียวกัน ภาคส่วนของรัฐจำเป็นต้องเสริมสร้างการใช้ประโยชน์จากกฎระเบียบของ RCEP และภาคเอกชนควรได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมใน RCEP ผ่านโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ■
ที่มา: สำนักข่าว Xinhua
